สำหรับความง่ายที่ว่านี้ เกิดขึ้นจากฟีเจอร์ตัวช่วยการเข้าถึง Riding Aids​ ที่ในเกมโมโตจีพีภาคนี้ขนใส่ให้มาเพียบ อาทิ ตัวช่วยเบรกชะลอความเร็วก่อนถึงโค้ง ตัวช่วยตอนออกสตาร์ท ตัวช่วยกันอาการส่ายสะบัดเวลาบิดคันเร่ง ผ่อนผันลดบทลงโทษต่างๆ ปรับสภาพความเสียหายให้เป็นเพียงแค่รอยขีดข่วนไม่ส่งผลต่อการขับขี่ หรือแม้กระทั่งตอนขับหลุดโค้งลุยดินกินหญ้ามันก็ยังมีตัวช่วยให้เราสามารถประคอง​รถกลับเข้าสู่สนามได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยออพชั่นตัวช่วย Assists เหล่านี้เราสามารถเลือกปิด-เปิดปรับแต่งได้ตามสะดวก เมื่อผสมรวมเข้ากับโหมดแบบทดสอบฝึกหัด Tutorial ที่สอนค่อนข้างละเอียดและความยากของ AI คู่แข่งที่ปรับเลือกได้หลายระดับตามความเหมาะสมด้วยแล้ว​ จึงทำให้การคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นและการคว้าถ้วยแชมป์รางวัลต่อเนื่องทุกสมัยในเกมเป็นเรื่องง่ายดายที่ใครๆก็สามารถทำได้ แม้ชีวิตนี้จะไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์​มาก่อนเลยก็ตาม

ทางด้านโหมดอาชีพ Career ยังคงหวนกลับมาให้เราสวมบทนักขับอาชีพไต่เต้าจากม้ามืดโนเนมขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง เริ่มต้นจากการสร้างตัวละครนักบิด แต่งชุดอุปกรณ์ของสวมใส่ เลือกเบอร์หมายเลข เลือกสไตล์​การขับขี่ และทีมยี่ห้อรถที่เราอยากสังกัด โดยผู้เล่นมีหน้าที่ต้องควบคุมดูแลรับผิดชอบทั้งในส่วนพาร์ทของการบริหารจัดการทีม จ้างทีมงานสต๊าฟ พัฒนาอัปเกรดเทคโนโลยี​รถแข่ง เลือกเซ็นสัญญา​กับสปอนเซอร์​ และพาร์ทของการลงแข่งในสนามเก็บสะสมแต้มในแต่ละเดือน ซึ่งผู้เล่นหน้าใหม่สามารถเลือกเริ่มต้นอาชีพค่อยๆไต่ระดับจากลีกล่างๆความเร็วต่ำอย่าง Moto 3 หรือ Moto 2 ไปก่อนเพื่อทำความคุ้นชินกับสนามและการขับขี่ แต่ถ้าใครรู้สึกมั่นใจในฝีมือมาถึงจะเปิดฤดูกาลด้วยลำดับชั้น MotoGP เลยก็ย่อมได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นมันให้หมดครบทั้ง 21 สนามตามตารางปฏิทินออฟฟิเชียลในโลกจริง หรือจะประหยัดเวลาแข่งแบบรวบรัดฤดูกาลสั้นๆแค่ 8 สนามแล้วจบซีซั่นรู้ผลเลยก็ได้แล้วแต่เรา

เรื่องบรรยากาศความสมจริง นับเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งหลักที่ซีรีส์โมโตจีพีมีมาแต่ไหนแต่ไร​ และในภาคนี้พวกเขาก็ยังคงเลือกใช้ Unreal​ Engine​ มาช่วยสร้างความประทับใจอีกเหมือนเคย ทุกอย่างล้วนมอบความรู้สึกเสมือนเราอยู่ในสนามแข่งจริงๆ ทั้งสภาพเซอร์กิต ตัวละครนักขับ และโมเดลรถแต่ละยี่ห้อที่จำลองถอดแบบมาได้เป๊ะ หนำซ้ำฟิสิกส์การขับขี่ก็เป็นเอกลักษณ์​เฉพาะแตกต่างกันไปในแต่ละคัน เช่น Ducati ที่เน้นความแรงทางตรงแต่ควบคุมยาก ขณะที่ Yamaha เน้นสมดุลเข้าโค้งได้ดี ส่วน Aprillia​ ก็จะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเหนือกว่าใคร แถมรถยี่ห้อเดียวกันหากเปลี่ยนนักขับที่มีสรีระส่วนสูงน้ำหนักตัวไม่เท่ากัน ฟีลอารมณ์​การขับขี่ก็ต่างกันไปด้วย ละเอียดสมจริงเอามากๆ และแน่นอนหากใครซื้อตัวเกมเวอร์ชัน PS5 คุณจะยิ่งได้อรรถรสมากขึ้นไปอีกจากลูกเล่นแรงสั่นฟีดแบค รวมถึงแรงต้านเวลากำเบรกและบิดคันเร่งที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยมฟินสุดๆไปเลย

มีพาหนะ 20 แบบให้ผู้เล่นเลือกใช้ และส่วนใหญ่ปลดล็อคได้ด้วยการจบถ้วย แต่ต้องซื้อด้วยฟันเฟือง (สกุลเงิน) ฟันเฟืองได้รับรางวัลสำหรับการจบการแข่งขันในแต่ละถ้วยซึ่งจะเป็นไปตามธรรมชาติ มีรางวัลอื่น ๆ สำหรับการทำถ้วยให้เสร็จ เช่น งานระบายสี โมเดลตัวละครสำหรับคนขับของเรา และเสื้อผ้าบางส่วนสำหรับพวกเขา เนื่องจากไม่จำเป็นต้องชนะในแต่ละถ้วย 45 ถ้วย จึงทำให้สามารถผ่านเข้ารอบได้มากขึ้น คุณต้องจบใน 3 อันดับแรกเท่านั้นจึงจะได้รับเครดิตสำหรับถ้วยและไปยังรายการถัดไปในบรรทัด ถ้วยมี 5 คลาส แต่ละคลาสมี 8 ถ้วยต่อประเภท โดยเฉลี่ยหนึ่งถ้วยจะมีความยาว 2 เหตุการณ์ แต่สามารถมีได้ 1 หรือ 3 เหตุการณ์ในถ้วยเดียว

สิ่งที่เรามองว่าเป็นไฮไลท์เด็ดจริงๆของเกมภาคนี้ คงต้องยกนิ้วให้กับโหมดใหม่สดซิงที่เพิ่งถูกบรรจุเข้ามาเป็นครั้งแรกอย่าง Nine Season 2009 โหมดชาเลนจ์ในรูปแบบภาพยนตร์สารคดีที่จะนำพาเราย้อนรำลึกโมเมนต์ช่วงเวลาน่าจดจำในรายการแข่งขันโมโตจีพีเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนสมัยที่ "วาเลนติโน่ รอสซี่" กำลังเผชิญศึกรอบด้านทั้งจากคู่ปรับที่ขับเคี่ยวกันมาสูสีอย่าง "เคซีย์ สโตเนอร์" และ "ดานี เปโดรซ่า" ขณะที่เพื่อนร่วมทีมยามาฮ่าของเขาเองอย่าง "ฆอร์เก้ ลอเรนโซ่" ก็พร้อมเป็นตัวแปรสำคัญคอยจ้องฉกชิงปล้นบัลลังก์​ ซึ่งเราจะได้สวมบทหลากหลายตัวละครเล่น​เคลียร์มิชชั่นอันมีเงื่อนไขจำลองมาจากสถานการณ์​ที่พวกเขาแต่ละคนได้พบเจอ เช่น บางมิชชั่นเราอาจได้สวมบทเป็นสโตเนอร์ขับ Ducati คันสีแดงคู่ใจเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำโดยมีเดอะดอกเตอร์คอยไล่บี้จี้ตูดกดดันอยู่ไม่ห่าง หรือบางมิชชั่นเราอาจต้องสลับบทมาเป็นผู้ตามพยายามเร่งแซงเข้าใกล้คันจ่าฝูง เรียกได้ว่าสนุกตื่นเต้นเร้าใจยิ่งกว่าโหมดอาชีพเสียอีกเพราะมันหยิบจับคัดเอาเฉพาะช่วงสำคัญๆมาให้เราได้เล่นแบบทันทีทันใด

ตามที่โฆษณา Moto​GP​ 22​ นับเป็นภาคแรกในประวัติศาสต​ร์ของซีรีส์ที่มีการรองรับ ภาษาไทย​ ซึ่งผลงานการแปลไทยเสียงคนบรรยายคำอธิบายเมนูต่างๆถือว่าค่อนข้างน่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง อาจมิได้สมบูรณ์​เป๊ะเต็มร้อยเพราะยังมีการแปลศัพท์​อังกฤษแบบห้วนๆตรงตัวอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆชอบกลหรือบางทีมีพิมพ์ตกหล่นเบิ้ลเกินไปบ้าง แต่โดยรวมเราว่าโอเคอยู่นะกับการลองแปลครั้งแรกแล้วได้ระดับนี้

เรื่องดีๆผ่านพ้นไป มาถึงเรื่องแย่ๆกันบ้าง อย่างที่แฟนๆหลายคนทราบกันดีว่าผ่านมาเกือบ 15 ปีทีมงาน Milestone​ พวกเขาไม่เคยแก้ปัญหาคาราคาซัง​อย่างเรื่อง AI หรือคู่แข่งปัญญา​ประดิษฐ์ภาย​ในเกมได้เลยสักที และภาคนี้มันก็ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่ได้รับการปรับปรุง​แก้ไขใดๆทั้งสิ้น AI แต่ละคันยังคงมุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาแข่งขันกันเองโดยไม่สนใจผู้เล่น ตัวเราเปรียบเสมือนเป็นอากาศธาตุล่องหนไร้ตัวตนที่พวกมันมองไม่เห็นและพร้อมที่จะพุ่งชนเราให้กระเด็นออกนอกสนามทันทีหากจังหวะไหนเราเผลอผ่อนคันเร่งเข้าโค้งช้าไปนิดเดียว แม้แต่รถคันรั้งท้ายที่ถูกเราน็อครอบมันก็ขยันเบียดแทรกไม่มีหลบบ่ายเบี่ยงให้ กลายเป็นมหกรรมแข่งขันมอเตอร์ไซค์วายป่วงดันก้นชนยับดับดิ้นกลิ้งล้มระเนระนาด​ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฟีเจอร์ Rewind (กดปุ่ม R1)​ ย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาด​ถึงได้รับความนิยมนักและเป็นจุดขายหลักที่ซีรีส์นี้จะขาดไปเสียไม่ได้